ไม้ผลตะวันออก 4 ชนิด ปีนี้ ผลผลิตรวม 1.19 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 32% ออกตลาดชุก พฤษภาคมนี้

ข่าวที่  41/2565  วันที่ 20 เมษายน 2565
ไม้ผลตะวันออก 4 ชนิด ปีนี้ ผลผลิตรวม 1.19 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 32% ออกตลาดชุก พฤษภาคมนี้
          นางศศิญา ปานตั้น ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) เปิดเผยถึงผลสรุปข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2565 (ข้อมูล ณ 11 เมษายน 2565) โดย สศก. ร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ ภาคตะวันออก สรุปตัวเลขเอกภาพปริมาณผลผลิตของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด (ระยอง จันทบุรี ตราด) พบว่า ผลผลิตรวมทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 1,189,522 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีจำนวน 903,865 ตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32) เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564 ส่งผลให้เอื้อต่อการออกดอกและติดผล แม้จะมีภัยธรรมชาติจากลมพายุช่วงปลายปี 2564 และเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2565 ที่ทำให้ดอกและลูกร่วงเสียหาย แต่ในภาพรวมปริมาณผลผลิตยังคงมากกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผลผลิตได้ทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะออกต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนกันยายน 2565 โดยผลผลิตจะออกมากที่สุดช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 (คิดเป็นร้อยละ 51 ของผลผลิตทั้งหมด)
           เมื่อพิจารณาปริมาณผลผลิตรายชนิด พบว่า ทุเรียน มังคุด เงาะ ผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยมังคุด เพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 108 รองลงมา ทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 และเงาะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เนื่องจากสภาพอากาศปีนี้มีความเหมาะสมต่อการออกดอกและติดผลของไม้ผลมากกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับอายุต้นที่เพิ่มขึ้นและสภาพความพร้อมของต้น ในขณะที่ ลองกอง ผลผลิตลดลงร้อยละ 6 เนื่องจากปัญหาราคาตกต่ำในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา และโรคระบาด Covid-19 ส่งผลให้ตลาดปลายทางประเทศเวียดนามมียอดรับซื้อค่อนข้างน้อย การดูแลเอาใจใส่จึงน้อยกว่าพืชอื่น ด้านผลผลิตต่อไร่ ของไม้ผลทั้ง 4 ชนิดเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย มีปริมาณน้ำเพียงพอใช้เลี้ยงต้น ดอกและผลผลิต ช่วงอายุต้นให้ผลผลิตสูง เกษตรกรเอาใจใส่ดูแลรักษามากขึ้น โดยมังคุดมีปริมาณผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นมากที่สุด ร้อยละ 115 เนื่องจากการไม่ติดผลในปี    ที่ผ่านมาทำให้ได้พักต้นสะสมอาหาร จึงออกดอกและติดผลเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา รองลงมาทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เงาะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 และลองกองเพิ่มขึ้นร้อยละ 4
            สถานการณ์การผลิตไม้ผลทั้ง 4 ชนิด ขณะนี้ ทุเรียน ออกดอกแล้วร้อยละ 100 เริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทุเรียนที่เก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงแรกคือทุเรียนพันธุ์กระดุมและหมอนทองบางส่วน โดยจะทุเรียนทยอยออกสู่ตลาดจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม 2565 ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากที่สุดในเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน 2565 มังคุด ออกดอกแล้วร้อยละ 99 เริ่มเก็บเกี่ยวได้เล็กน้อยตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และต่อเนื่องถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2565 ปีนี้ มังคุดออกดอกติดผลเพิ่มขึ้นมากและมีหลายรุ่น ผลผลิตจะออกมากที่สุดช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน 2565  เงาะ ออกดอกแล้วร้อยละ 99 เริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนสิงหาคม 2565 ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงกลางเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องถึงต้นเดือนมิถุนายน 2565 ลองกอง ออกดอกแล้วร้อยละ 70 ส่วนใหญ่อยู่ในระยะทยอยตั้งช่อออกดอกและเริ่มติดผลแก่บ้างเล็กน้อย ปีนี้ออกดอกล่าช้าเนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง จึงมีระยะการติดผลที่ค่อนข้างห่างในแต่ละรุ่น ช่อดอกยาวสมบูรณ์ได้น้ำหนักดี ทำให้ได้ผลผลิตลูกโต จะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนกันยายน 2565 ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2565
            สำหรับแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ ในปี 2565 ทั้ง 3 จังหวัด ได้กำหนดมาตรการควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ออกสู่ตลาด โดยประกาศกำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียนไว้ 4 พันธุ์ ดังนี้ พันธุ์กระดุมเก็บเกี่ยวได้วันที่ 20 มีนาคม 2565 พันธุ์ชะนีและพันธุ์พวงมณี เก็บเกี่ยวได้วันที่ 10 เมษายน 2565 พันธุ์หมอนทอง เก็บเกี่ยวได้วันที่ 25 เมษายน 2565 หากจะเก็บเกี่ยวทุเรียนก่อนวันกำหนด เกษตรกรและคนรับจ้างตัดทุเรียนต้องแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ โดยนำตัวอย่างผลผลิตมาตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียนอย่างน้อย 2 วันก่อนเก็บเกี่ยว หรือล้งส่งออกต้องแจ้งด่านตรวจพืชจันทบุรี หรือ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) จังหวัดจันทบุรี เพื่อสุ่มตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียนก่อนปิดตู้ส่งออก ซึ่งกรมวิชาการเกษตร และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้กำหนดค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน สำหรับพันธุ์กระดุม ไม่น้อยกว่า 27 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักแห้ง พันธุ์ชะนีและพันธุ์พวงมณี ไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักแห้ง พันธุ์หมอนทอง ไม่น้อยกว่า 32 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักแห้ง หากต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดถือว่าเป็นทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ซึ่งผู้ใดจำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพ เข้าข่ายความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 และความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47 นอกจากนี้ เน้นการควบคุมคุณภาพสินค้าตามมาตรฐาน GAP-Plus การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี และเหมาะสม การป้องกันโรค Covid-19 ในระดับสวนเกษตรกร และมาตรฐาน GMP-Plus การปฏิบัติในโรงคัดบรรจุที่ดีของล้งส่งออกให้เป็นที่ยอมรับและสร้างความมั่นใจ เพื่อรองรับการตรวจสอบตามนโยบาย Zero Covid ของประเทศจีนอย่างเข้มงวดในสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ สำหรับแนวทางการกระจายผลผลิตในประเทศ มีทั้งโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้เพื่อยกระดับราคาไม่ให้ตกต่ำ นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมหารือแนวทางการยกระดับผลผลิตเข้าสู่ช่องทางโมเดิร์นเทรด ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ และบริษัทไปรษณีย์ไทย เพื่อเพิ่มช่องทางการกระจายผลผลิตภายในประเทศ ช่วยส่งเสริมพัฒนาและเชื่อมโยงการตลาดให้แก่เกษตรกร อีกทั้ง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะช่วยกระจายผลผลิตในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก ให้กับผู้บริโภคโดยตรง และโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าผลไม้สด แปรรูปและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 (สสก.3) จังหวัดระยอง ได้นำข้อมูลเอกภาพนี้ไปบริหารจัดการในการจัดตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ทั้งปริมาณการออกสู่ตลาดและราคาขายรายวันโดยเริ่มรายงานตั้งแต่ 18 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ท่านที่สนใจข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคตะวันออก สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.6 โทร 0 3835 2435 หรืออีเมล zone6@oae.go.th
 
                                                ************************************
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี